Pure Ume (บ๊วยญี่ปุ่นสกัด) 80g
ผู้ผลิต : Hayashi Enzaburou Shouten.
※รูปแบบบรรจุภัณฑ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า
หากมีคำถามหรือสงสัยวิธีรับประทาน เรายินดีให้คำปรึกษา กรุณาเมล์หาเราได้ ■E-mail: info@ably.co.jp (ตลอด 24 ชั่วโมง) (※ในการติดต่อสอบถาม กรุณาระบุชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ในการติดต่อกลับให้ชัดเจน) เรามีประสบการณ์ในการจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ และความงามมายาวนานกว่า 23 ปี เราทำธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตต่อลูกค้า หากท่านมีข้อสงสัยหรือคำถามใดๆ สามารถติดต่อเราได้ตลอดเวลา |
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
![]() |
Pure Ume (บ๊วยญี่ปุ่นสกัด) 300g THB 2,966.67 |
รายละเอียดของสินค้า
Pure Ume (บ๊วยญี่ปุ่นสกัด) 80g | ||||||||||||||
ชื่อสินค้า | เนื้อบ๊วยสกัด | |||||||||||||
ส่วนประกอบ | บ๊วยดิบของจังหวัดวากายาม่า 100% (ปราศจากสารปรุงแต่ง) | |||||||||||||
ปริมาณ | 80g (รับประทานได้ประมาณ 80 วัน) | |||||||||||||
วิธีเก็บรักษา | ควรเก็บรักษาในที่แห้ง หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดด | |||||||||||||
สารอาหารที่สำคัญ ※1g |
|
【วิธีรับประทาน】
รับประทานวันละประมาณ1 g โดยประมาณ
วิธีทำเครื่องดื่มบ๊วยสกัดใส่น้ำผึ้ง
เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสเปรี้ยว !

เนื้อบ๊วย (Ume) จากจังหวัดวากายาม่า 100% ปราศจากสารปรุงแต่ง !
[เนื้อบ๊วยสกัด] นี้ทำจากเนื้อบ๊วย (Ume) บริสุทธิ์แท้ 100 % ปราศจากสารปรุงแต่งทุกชนิด
เราคัดแต่บ๊วยดิบจากจังหวัดโอกายาม่าซึ่งขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ เอาเนื้อบ๊วยมาคั้นเอาแต่น้ำ แล้วจึงนำไปต้มเป็นระยะเวลานาน
ทำจากบ๊วยดิบแท้ 100 % ปราศจากสารปรุงแต่ง หรือส่วนผสมอื่นใดทุกชนิด
เพื่อให้ได้เนื้อบ๊วยสกัดบริสุทธิ์ 80 g นี้ ต้องใช้บ๊วยดิบถึง 4 Kg !!
เนื้อบ๊วยสกัดนี้จึงเข้มข้นและอุดมไปด้วยพลังของบ๊วยญี่ปุ่น
เนื้อบ๊วยสกัดนี้จึงเข้มข้นและอุดมไปด้วยพลังของบ๊วยญี่ปุ่น

◆ขั้นตอนการผลิตเนื้อบ๊วยสกัดบริสุทธิ์ |
ใช้บ๊วยดิบที่ปลูกโดยเกษตรกรในเมืองมินาเบะโจ จังหวัดวากายาม่า โดยใช้การเก็บเกี่ยวด้วยมือทีละลูก
เนื้อบ๊วยสกัดนี้สามารถผลิตได้ในช่วงเดือนพ.ค – มิ.ย ซึ่งเป็นฤดูเก็บเกี่ยวบ๊วย แต่เพียงเท่านั้น
นอกจากนั้น บ๊วยดิบ 1 Kg สามารถผลิตเนื้อบ๊วยสกัดนี้ได้เพียงแค่ 20 g เท่านั้น ทำให้สินค้าที่ได้มีจำนวนไม่มาก

เนื้อบ๊วยสกัดนี้ทำจากบ๊วยดิบจากธรรมชาติ
เมื่อบ๊วยเริ่มสุกสีจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และเมื่อสุกน้ำกับเนื้อบ๊วยจะผสมรวมกัน และมีปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ไม่สามารถนำมาทำเนื้อบ๊วยสกัดที่มีคุณภาพดีได้

นำบ๊วยใส่ลงไปในเครื่องบด ซึ่งจะคว้านเอาเมล็ดออกก่อนที่จะนำเนื้อไปบดละเอียด
การนำบ๊วยลงไปบดทั้งลูกโดยไม่คว้านเมล็ดออกอาจจะช่วยย่นเวลาในการผลิตได้มาก แต่คุณภาพรสชาติที่ได้ก็จะแตกต่างออกไปเช่นเดียวกัน เมื่อคำนึงถึงรสชาติเพื่อไม่ให้มีรสฝาดเจือปนและคำนึงถึงคุณภาพแล้วเราจึงทำการเอาเมล็ดออกก่อนทุกครั้ง
คั้นน้ำ
นำถุงที่บรรจุเนื้อบ๊วยบดมาวางเรียงต่อกันแล้วคั้นเอาแต่น้ำออกมา โดยใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง ค่อยๆเพิ่มแรงอัดเพื่อคั้นน้ำออกมาจนหมด
นำน้ำบ๊วยมาต้ม
ค่อยๆต้มน้ำบ๊วยในหม้อขนาดใหญ่ ค่อยๆตักฟองออก และ ค่อยๆปรับไฟ จนได้ที่
เมื่อต้มนานพอสมควรแล้วก็ปิดไฟ ณ ตอนนี้เราจะได้เนื้อบ๊วยสกัดที่มีความหนืดแต่ยังไม่เข้มข้นพอ
เราจึงทำการเทย้ายน้ำบ๊วยไปเก็บไว้ในแทงค์ขนาดใหญ่เพื่อรอการเริ่มขั้นตอนสุดท้าย
ขั้นตอนสุดท้าย
หลังจากทิ้งน้ำบ๊วยที่ต้มแล้วไว้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ก็ทำการย้ายน้ำบ๊วยกลับไปยังหม้อต้มอีกครั้ง แล้วเริ่มเปิดไฟต้มอีกครั้ง โดยระวังอย่าให้ไหม้
โดยระยะเวลาในการต้มจะขึ้นอยู่กับ สภาพบ๊วยดิบที่ใช้ อากาศ อุณภูมิ และความชื้น ซึ่งจะสังเกตุได้จากการเดือดและฟองที่ลอยขึ้นมาจะแตกต่างกัน ซึ่งทำให้การต้มแตกต่างกันทุกวัน
ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องอาศัยประสปการณ์อันยาวนาน ในการตัดสินใจ
เมื่อปิดไฟแล้ว ก็ยังปล่อยให้ต้มต่อไปอีก 10 ชั่วโมงจากความร้อนที่ยังเหลืออยู่
ถึงจะปิดไฟแล้ว แต่ความร้อนที่เหลือก็อาจทำให้ไหม้ได้ ในช่วงแรกจึงต้องใช้ไม้คนทุกๆ 10 นาที หลังจากนั้นจึงค่อยๆขยายเป็น 20 นาที จนครบ 9 ชั่วโมงก็เลื่อนเป็นคนทุกๆครึ่งชั่วโมง ก็เป็นอันเสร็จ
การใช้ไฟต้มจนวินาทีสุดท้าย กับการค่อยๆทำให้น้ำระเหยออกไปด้วยความร้อนที่คงเหลืออยู่โดยนั้นให้รสชาติที่ต่างกัน
